โกดังสำเร็จรูป ทางเลือกใหม่ของธุรกิจยุคใหม่ที่คุ้มค่ากว่าเดิม

การเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจที่ต้องใช้พื้นที่จัดเก็บสินค้า มักจะต้องคิดถึงเรื่อง “โกดัง” เป็นอันดับแรก ซึ่งปัจจุบันมีทางเลือกที่น่าสนใจกว่าเดิม นั่นก็คือ โกดังสำเร็จรูป เพราะไม่ใช่แค่ราคาที่จับต้องได้ แต่ยังสามารถตอบโจทย์ในด้านความเร็วในการก่อสร้าง ความแข็งแรง และความยืดหยุ่นต่อการใช้งานอีกด้วย

ทำไมธุรกิจยุคนี้ถึงหันมาเลือกโกดังสำเร็จรูป

ธุรกิจสมัยใหม่ต้องการความเร็ว ความคล่องตัว และการลงทุนที่คุ้มค่า การสร้างโกดังด้วยวิธีดั้งเดิมนั้นใช้เวลานานและงบประมาณสูง ในขณะที่โกดังสำเร็จรูปสามารถติดตั้งได้ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ เหมาะสำหรับเจ้าของกิจการที่ต้องการใช้งานพื้นที่อย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นโกดังเก็บสินค้า พื้นที่กระจายสินค้า หรือแม้แต่การทำสำนักงานแบบประหยัด

จุดเด่นของโกดังสำเร็จรูปที่ตอบโจทย์เจ้าของธุรกิจ

1. ใช้เวลาสร้างสั้นกว่าครึ่ง

โกดังสำเร็จรูปผลิตจากชิ้นส่วนที่เตรียมไว้ล่วงหน้า ทำให้การประกอบสามารถดำเนินการได้รวดเร็ว ลดเวลาการก่อสร้างเทียบกับระบบทั่วไปที่ต้องใช้หลายเดือน

2. ประหยัดงบประมาณได้อย่างเห็นผล

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดถูกควบคุมได้ง่ายกว่าเพราะวัสดุและรูปแบบการก่อสร้างเป็นมาตรฐาน ทำให้ไม่มีงบหลุดบานปลายเหมือนการสร้างแบบปกติ

3. ปรับแบบได้ตามความต้องการ

มีแบบให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโกดังแบบทรงจั่ว (HW-H), ทรงโค้ง (HW-HC), หรือทรงจั่วเสาเบา (PEB) เจ้าของธุรกิจสามารถเลือกได้ตามพื้นที่ งบ และการใช้งานจริง

4. แข็งแรง ทนทาน ปลอดภัย

วัสดุที่ใช้ เช่น โครงเหล็ก H-Beam, หลังคาเมทัลชีท หรือ PU Panel มีความแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ดี เหมาะกับการใช้งานระยะยาวและทนต่อสภาพอากาศ

5. ย้าย/ขยายได้ในอนาคต

จุดเด่นที่หลายคนมองข้ามคือ โกดังสำเร็จรูปสามารถรื้อถอนได้ หรือจะต่อเติมขยายในอนาคตก็ทำได้สะดวกกว่าอาคารแบบเดิม

โกดังสำเร็จรูป

เหมาะกับธุรกิจประเภทไหนบ้าง

1. ธุรกิจโลจิสติกส์ ที่ต้องการคลังเก็บสินค้าใกล้จุดกระจาย
2. ธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดเล็กถึงกลาง ที่ต้องใช้พื้นที่เก็บวัตถุดิบหรือเครื่องจักร
3. ร้านค้าออนไลน์ ที่เริ่มเติบโตและต้องมีโกดังจัดเก็บสินค้าส่วนตัว
4. ธุรกิจเกษตรและอาหาร ที่ต้องเก็บผลผลิตในพื้นที่ที่ควบคุมอุณหภูมิได้
5. เจ้าของที่ดิน ที่ต้องการสร้างโกดังให้เช่าในพื้นที่ของตน

    รูปแบบโกดังสำเร็จรูปยอดนิยม

    1. HW-H (High Warehouse-Hard Column) เหมาะกับผู้ที่ต้องการโกดังขนาดใหญ่ เน้นความแข็งแรง รองรับเครื่องจักรหนัก
    2. HW-HC (High Warehouse-Hard Curve) โครงสร้างแบบโค้ง เสริมดีไซน์และความคุ้มค่า ราคาประหยัดกว่าทรงจั่ว
    3. PEB (Pre-Engineered Building) ระบบเสาเบา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการโกดังขนาดเล็ก กลาง ราคาย่อมเยา

    สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนเลือกโกดังสำเร็จรูป

    1. งบประมาณและขนาดพื้นที่ เลือกขนาดโกดังให้เหมาะกับปริมาณสินค้าในปัจจุบันและการขยายตัวในอนาคต
    2. ความต้องการใช้งานเฉพาะด้าน หากต้องควบคุมอุณหภูมิ ควรเลือกวัสดุผนังและหลังคาที่มีฉนวนกันความร้อน
    3. ตำแหน่งที่ตั้งและโครงสร้างพื้น พื้นที่มีความลาดชันหรือไม่ ต้องเตรียมงานฐานรากมากน้อยเพียงใด
    4. เลือกผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือควรเลือกผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์ มีแบบหลากหลาย พร้อมบริการออกแบบและก่อสร้างครบวงจร

    โกดังสำเร็จรูป

    ข้อควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโกดังสำเร็จรูป

    1. การขออนุญาตก่อสร้างยังคงต้องยื่นแบบก่อสร้างและผ่านการรับรองจากวิศวกร
    2. ควรเลือกแบบโกดังที่ผ่านมาตรฐานโครงสร้างเพื่อความปลอดภัย
    3. หากต้องการใช้พื้นที่ในระยะสั้น การเช่าโกดังก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
    4. โกดังสำเร็จรูปคือการลงทุนที่วางแผนได้

    แทนที่จะใช้เวลาหลายเดือนกับการสร้างอาคารแบบเดิม คุณสามารถวางแผนเปิดธุรกิจให้เร็วยิ่งขึ้น เพียงเลือกโกดังสำเร็จรูปที่ตอบโจทย์ การลงทุนก็จะคุ้มค่ามากกว่า เพราะคุณมีเวลาไปโฟกัสที่การเติบโตของธุรกิจ ไม่ต้องกังวลเรื่องก่อสร้างที่ยืดเยื้อ

    สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังวางแผนสร้างโกดัง หรือขยายกิจการ โกดังสำเร็จรูปคือทางเลือกที่ช่วยประหยัดทั้งเวลาและต้นทุนในระยะยาว แถมยังปรับเปลี่ยนได้ง่ายในอนาคต ตอบโจทย์การทำธุรกิจแบบมืออาชีพครับ

    ถ้ากำลังมองหาโกดังสำเร็จรูปให้เช่า เชตปริมณฑล มีขนาดโครงการให้เลือกหลากหลาย เราขอแนะนำ โกดังสำเร็จรูป คุ้มที่สุด เพื่อธุรกิจของคุณ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดเข้าชมโครงการ คุณสามารถส่งข้อมูลทางหน้าเว็บเพื่อให้ทีมงานติดต่อกลับ โดยทีมงานจะติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด หรือ สามารถติดต่อได้ที่

    โทร. 064-1587519
    E-mail : factoryyardth@gmail.com
    Facebook : Factory Yard – โรงงาน/โกดังขาย
    LINE : https://page.line.me/factoryyard?openQrModal=true 

    Scroll to Top